บทที่ 11

บทที่ 11
การประยุกต์ใช้โปรแกรมการนำเสนอผลงานและการผลิตสื่อผสมด้วยโปรแกรม 
Microsoft PowerPoint


ลักษณะของการนําเสนอข้อมูล

การนําเสนอข้อมูล (Present Data) คือ การสือสารข้อมูลหรือการส่งข้อมูลจากผู้นาเสนอข้อมูลไปส่งสารผู้รบข้อมูลด้วยวิธีการต่างๆ เพือให้ผ้รับข้อมูลได้รบข้อมูลที
ถูกต้อง การนําเสนอข้อมูลให้ มีประสิทธิภาพผู้นำเสนอข้อมูลควรพิจารณาความพร้อมของตนเอง ผู้รับข้อมูล ข้อมูล และ เทคโนโลยีทีใช้ในการนําเสนอข้อมูลผู้นําเสนอข้อมูลควรเลือกใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์พื้นฐานในการใช้งาน



คอมพิวเตอร์ แล้วการนําเสนอข้อมูลตามรูปแบบข้อมูลนั้นๆ ดังนี้

1.ตัวหนังสือหรือตัวอักษร (Text) เป็นข้อมูลพื้นฐานทีนิยมใช้ในการนําเสนอทุกงานการนําเสนอตัวหนังสือหรือตัวอักษรควรพิจารณาตัวอักษร สีตัวอักษร สีพื้นหลัง และรูปแบบของตัวหนังสือ หรือตัวอักษรทีส่งเสริมการอ่านของผู้รับข้อมูล 


2.รูปภาพหรือภาพนิ่ง(Image)เป็นข้อมูลทีช่วยส่งเสริมความน่าสนใจและช่วยให้เข้าใจข้อมูลทีนําเสนอมากยิ่งขึ้นการนําเสนอข้อมูลควรเลือกเป็นภาพสีทีมี ความชัดเจน

3. แผนภูมิ แผนผัง และกราฟ (Diagram) เป็นข้อมูลทีช่วยสรุปรายละเอียดทีมีจำนวนมาก ให้นำเสนอในลักษณะทีน่าสนใจมากยิ่งขึ้น 
เหมาะสําหรับข้อมูลทีต้องการเปรียบเทียบ 

4. เสียง (Sound) เป็นข้อมูลทีช่วยให้งานนําเสนอมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ระดับเสียงทีใช้ในการนําเสนอไม่ควรดังหรือค่อยเกินไป 

และ ผู้รับข้อมูลสามารถเลือกเปิดหรือปิดเสียงทีใช้ประกอบนําเสนอได้ 

5.ภาพเคลือนไหว(Motion)เป็นข้อมูลทีพัฒนามาจากข้อมูลภาพนิ่ง ด้วยการเรียงซ้อนภาพนิ่งหลายๆ ภาพด้วยความเร็วสูงทําให้มีลักษณะเหมือนวัตถุในภาพมีการเคลือนไหว 



รูปแบบการนําเสนองาน 

การนําเสนอข้อมูลเป็นกระบวนการในการทํางานเพือให้ผู้อื่นรู้และเข้าใจในสิ่งทีผู้นำเสนอข้อมูลต้องการให้ผู้รับรู้การนําเสนองานเป็นส่วนหนึ่งของ


การนําเสนอข้อมูล ซึงนิยมนําเสนอในรูปแบบทีสามารถจับต้องหรือใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในกระบวนการทํางานนันๆได้ การนําเสนอ งานสามารถปฏิบัติ ได้หลายรูปแบบ เช่น เอกสารสิงพิมพ์ มัลติมเดีย และเว็บไซต์

1.เอกสารสิ่งพิมพ์ ปัจจุบนมีการนําเทคโนโลยีมาใช้ในการส่งเสริมการทํางานด้านเอกสารสังพิมพ์ทงรูปแบบของเอกสารสิงพิมพ์ บนสือต่างๆ จนถึง สารอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ทีใช้สําหรับสร้างเอกสารสิงพิมพ์ไม่ตองมีประสิทธิภาพสูง เท่ากับการนําเสนอด้วย มัลติมเดีย และเว็บไซต์ โดยใช้ฮาร์ดแวร์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์และเครืองพิมพ์ ส่วนซอฟต์แวร์ทใช้ได้แก่โปรแกรมด้านการประมวลผลคําหรือ โปรแกรมด้านการพิมพ์การนําเสนอผลงานด้วยเอกสารทีมีการเลือกใช้มากทีสุด เนื่องจากมีขอดี ดั้งนี้



นําเสนอข้อมูลได้ทงรูปแบบตัวอักษรหรือตัวหนังสือ รูปภาพ ภาพนิ่ง แผนภูมิ แผนผัง และกราฟ สร้างได้ง่าย ต้นทุนตํ่า และใช้เวลาในการสร้างน้อย สามรถนําเสนอได้ทกที ทุกเวลาไม่ต้องใช้เทคโนโลยีอื่นๆ ช่วยในการนําเสนอเป็นพื้นฐานของการสร้างงานนําเสนอในรูปแบบอื่นประยุกต์ใช้กับการนําเสนอในรูปแบบอื่นๆ ได้หลากหลาย 





ตัวอย่างเอกสารสิ่งพิมพ์

มัลติมีดีย 
มัลติมีเดีย (multimedia) หรือ สื่อประสม หรือ สื่อหลายแบบ เป็นการใช้สื่อในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ข้อความเสียง รูปภาพ หรือ ภาพเคลื่อนไหว สําหรับให้ข้อมูล ความรู้หรือให้ ความสําราญต่อผูชม สามารถประยุกต์สือต่างๆ ให้มารวมกันบน ระบบคอมพิวเตอร์ ผูใช้ สามารถโต้ตอบระบบคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่างๆ กันได้ เทคโนโลยีเหล่านี้ ได้พัฒนาขึ้นพร้อมกับการ พัฒนาฮาร์ดแวร์ เช่น การพัฒนาอุปกรณ์ทีใช้อ่านและ บันทึกข้อมูลการพัฒนาหน่วยความจําให้มขนาดทีเล็กลงแต่มความจุมากขึ้น สื่อมัลติมีเดีย สือมัลติมีเดียสือประสมหรือสือหลายแบบทีมีการใช้อปกรณ์ต่างๆ เพือการนําเสนอข้อมูล เป็นหลัก โดยได้มี การออกแบบนําเสนอไว้อย่างเป็นระบบ มัลติมเดียนันได้รวม เอาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไว้ดวยกัน จะเน้นส่วนไหน มาก น้อยนั้นขึนอยู่กับลักษณะการใช้งาน และจะเน้นผลผลิตทีเกิด จากการ นําเสนอข้อมูลหลากลายรูปแบบ เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง และข้อความ
ปัจจุบันมีการนำเสนองานในรูปแบบมัลติมีเดียอย่างหลากหลาย เนื่องจากมัลติมีเดียมีข้อดีดังนี้
1. นำเสนอข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ตัวหนังสือ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว

2. ผู้รับข้อมูลสามารถเลือกรับข้อมูลจากจุดใดก็ได้โดยไม่ต้องเรียงลำดับเนื้อหา เช่น บทเรียนมัลติมีเดีย


3. นำไปใช้ร่วมกับการนำเสนอในรูปแบบอื่นๆได้ เช่น ภาพยนตร์ เกม เว็บไซต์





เว็บไซต์ 
เว็บไซต์ (Website, Web site หรือ Site) หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จดทําขึนเพื่อ นําเสนอข้อมูล ผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บหน้าแรกของเว็บไซต์ทีเก็บไว้ทีชื่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์โดยทั่วไปจะให้บริการต่อผูใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสีย ค่าบริการเพื่อทีจะดูข้อมูล ในเว็บไซต์นั้น รูปภาพแสดงเว็บไซต์ผู้ทำเว็บไซต์มหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับ เว็บไซต์สาหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยม เรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราว์เซอร์ นําเสนอข้อมูลได้หลายรูปแบบ เช่น ตัวหนังสือ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว สามารถ เชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลอื่นๆ บนอินเตอร์เน็ตได้ ใช้งานทุกสถานที ทุกเวลา ทีมีคอมพิวเตอร์เชือมต่อกับอินเทอร์เน็ต มีการปฏิสมพันธ์และ ตอบสนองต่อผู้รับข้อมูล สามารถแลกเปลียนข้อมูลต่างๆ กับผู้นำเสนอได้ทันที 




การนำเสนองานในรูปแบบเว็บไซต์ จัดเป็นการนำเสนอที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเว็บไซต์มีข้อดีดังนี้

1.นำเสนอข้อมูลได้หลายรูปแบบ เช่น ตัวหนังสือ เสียง ภาพนิ่ง

2.สามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลอื่นๆบนอินเทอร์เน็ตได้

3.ใช้งานได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา ที่มีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

4.มีการปฏิสัมพันธ์และตอบสนองต่อผู้รับข้อมูล

5.สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆกับผู้นำเสนอได้ทันที





การใช้งานเบื่องต้น

Microsoft PowerPoint 2013งานนำเสนอ PowerPoint ทำงานเหมือนกับการฉายสไลด์ เมื่อคุณต้องการสื่อความหมายข้อความหรือเรื่องเล่าหนึ่ง ลองแบ่งย่อยออกเป็นหลายๆ สไลด์ดู ให้คิดว่าแต่ละสไลด์เป็นเหมือนพื้นที่ว่างสำหรับรูปภาพ ข้อความ และรูปร่างที่จะช่วยสร้างสรรค์เรื่องราวของคุณ

เคล็ดลับ 

สำหรับภาพรวมของหลักสูตรการฝึกอบรมที่จะช่วยในการสร้างงานนำเสนอ PowerPoint 2013 แรกของคุณ ให้ดูที่ สร้างงานนำเสนอPowerPoint 2013 แรกของคุณ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ใน PowerPoint 2013 ให้ดูที่ มีอะไรใหม่ใน PowerPoint 2013
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ ใน Microsoft Office ให้ดูที่ มีอะไรใหม่ใน Office 2013

การเลือกธีม
เมื่อคุณเปิด PowerPoint คุณจะเห็นธีมที่มีอยู่แล้วภายในจำนวนหนึ่ง ธีมคือการออกแบบสไลด์ที่มี สี ฟอนต์ และ เอฟเฟ็กต์พิเศษต่างๆ ที่สอดคล้องกัน เช่น เงา การสะท้อน และอื่นๆ อีกมากมาย
1. เลือกธีม

2. คลิก สร้าง หรือเลือกธีมสี จากนั้นคลิก สร้าง




การแทรกสไลด์ใหม่

บนแท็บ หน้าแรก ให้คลิก สไลด์ใหม่ แล้วเลือกเค้าโครงสไลด์





การบันทึกงานนำเสนอของคุณ
1. บนแท็บ ไฟล์ ให้คลิก บันทึก

2. เลือกหรือเรียกดูโฟลเดอร์

3. ในกล่อง ชื่อไฟล์ ให้พิมพ์ชื่อสำหรับงานนำเสนอของคุณ แล้วคลิก บันทึก







เคล็ดลับ ขณะที่คุณทำงาน ให้บันทึกไฟล์ไปด้วย พยายามกด Ctrl+S บ่อยๆ

การเพิ่มข้อความ
คลิกในตัวแทนข้อความแล้วพิมพ์




การจัดรูปแบบข้อความของคุณ
1. เลือกข้อความ

2. ภายใต้ เครื่องมือการวาด ให้คลิก รูปแบบ

3. เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ 
เมื่อต้องการเปลี่ยนสีข้อความของคุณ ให้คลิก สีเติมข้อความ แล้วเลือกสี 
เมื่อต้องการเปลี่ยนสีเส้นกรอบข้อความของคุณ ให้คลิก เส้นกรอบข้อความ แล้วเลือกสี 
เมื่อต้องการใช้เงา การสะท้อน เรืองแสง ยกนูน การหมุนสามมิติ การแปลง ให้คลิก เอฟเฟ็กต์ข้อความ แล้วเลือกเอฟเฟ็กต์ที่คุณต้องการ 






การเพิ่มรูปร่าง

1. บนแท็บ แทรก ให้คลิก รูปร่าง

2.เลือกรูปร่างที่คุณต้องการ แล้วคลิกที่ใดก็ได้ในสไลด์ และลากเพื่อวาดรูปร่างนั้น




เคล็ดลับ เมื่อต้องการสร้างสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือวงกลมที่สมบูรณ์ (หรือจำกัดขนาดของรูปร่างอื่น) ให้กด Shift ค้างไว้ในขณะที่คุณลาก


การเพิ่มรูปภาพ



บนแท็บ แทรก ให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ 
เมื่อต้องการแทรกรูปภาพที่เก็บอยู่ในไดรฟ์ภายในเครื่องหรือเซิร์ฟเวอร์ภายในของคุณ ให้คลิก รูปภาพบนพีซีของฉัน เรียกดูรูปภาพ จากนั้นคลิก แทรก 




เมื่อต้องการแทรกรูปภาพจาก Bing หรือแกลเลอรีคลิปอาร์ตใน Office.com ให้คลิก รูปภาพออนไลน์ และใช้กล่องค้นหาเพื่อค้นรูปภาพ 

ตัวอย่างเช่น พิมพ์ ‘แมว’ ลงในกล่องค้นหา คลิปอาร์ตของ Office.com





นี่คือตัวอย่างรูปภาพของแมวที่คุณจะเห็น




เลือกรูปภาพ แล้วคลิก แทรก 

การเพิ่มบันทึกย่อของผู้บรรยาย

สไลด์จะดูดีที่สุดเมื่อคุณไม่อัดข้อมูลจนแน่นมากเกินไป คุณสามารถใส่ข้อมูลและบันทึกย่อต่างๆ ที่มีประโยชน์ลงไป แล้วใช้อ้างอิงในเวลาที่คุณนำเสนอได้

1. เมื่อต้องการเปิดหน้าต่างบันทึกย่อ ให้คลิก บันทึกย่อ




2. คลิกในบานหน้าต่าง บันทึกย่อ ซึ่งอยู่ด้านล่างสไลด์ แล้วพิมพ์บันทึกย่อ


การพิมพ์บันทึกย่อของผู้บรรยาย
1. บนแท็บ ไฟล์ ให้คลิก พิมพ์

2. ภายใต้ เครื่องพิมพ์ ให้เลือกเครื่องพิมพ์ที่คุณต้องการใช้พิมพ์

3. ภายใต้ การตั้งค่า ที่อยู่ถัดจาก สไลด์แบบเต็มหน้า ให้คลิกลูกศรลง และภายใต้ เค้าโครงเหมือนพิมพ์ ให้คลิก หน้าบันทึกย่อ

4. คลิก พิมพ์





การแสดงงานนำเสนอของคุณ

บนแท็บ การนำเสนอสไลด์ ให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

เมื่อต้องการเริ่มต้นงานนำเสนอจากสไลด์ภาพแรก ในกลุ่ม เริ่มการนำเสนอสไลด์ ให้คลิก ตั้งแต่ต้น 





ถ้าคุณไม่ได้อยู่ที่สไลด์แรก และต้องการเริ่มนำเสนองานจากสไลด์ปัจจุบัน ให้คลิก จากสไลด์ปัจจุบัน 
ถ้าคุณจำเป็นต้องนำเสนอให้กับบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกับคุณ ให้คลิก นำเสนอแบบออนไลน์ เพื่อตั้งค่างานนำเสนอบนเว็บ แล้วเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้ 

เคล็ดลับ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการดูบันทึกย่อของคุณขณะแสดงงานนำเสนอโดยไม่ให้ผู้ชมเห็นบันทึกย่อ ให้ดูที่ การใช้มุมมองของผู้นำเสนอในการนำเสนอสไลด์ของคุณ


การออกจากมุมมองการนำเสนอสไลด์

เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการออกจากมุมมองการนำเสนอสไลด์ ให้กด Esc บนคีย์บอร์ด


การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงานหลักการนำเสนอข้อมูลและสร้างสื่อนำเสนอ การนำเสนองานหรือผลงานนั้นสื่อนำเสนอเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมเนื้อหา ของผู้บรรยายไปยังผู้ฟังและผู้ชม ดังนั้นสื่อจึงมีบทบาทสำคัญอย่างมาก สื่อที่ดี จะช่วยให้การถ่ายทอดเนื้อหาสาระทำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ฟังและผู้ชมจะสามารถ จดจำเนื้อหาสาระได้นานและเข้าใจในเนื้อหาได้ดีมากขึ้น ความหมายการนำเสนอ การนำเสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้ชม ผู้ฟังโดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ อันจะทำให้บรรลุ ผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนำเสนอ





จุดมุ่งหมายในการนำเสนอ

1. เพื่อให้ผู้ชม ผู้ฟังรับเข้าใจสาระสำคัญของการนำเสนอข้อมูล

2. ให้ผู้ชม ผู้ฟังเกิดความประทับใจและนำไปสู่ความเชื่อถือในข้อมูลที่นำเสนอการนำเสนอผลงานโดยใช้สื่อโสตทัศนูปกรณ์ มีผลในทางจิตวิทยาการเรียนรู้ ซึ่งได้มีการ ค้นพบจากการวิจัยว่าการรับรู้ข้อมูลโดยผ่านทางประสาทสัมผัสสองอย่าง คือ ตา และหูพร้อมกันนั้น ทำให้เกิดการรับรู้ที่ดีกว่าส่งผลในด้านความสามารถในการจดจำได้มากกว่าการรับรู้โดยผ่านตา หรือ หูอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว จึงได้มีการพัฒนาสื่อโสตทัศนูปกรณ์รูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาใช้งาน โดยเฉพาะสื่อประสม




หลักการพื้นฐานของการนำเสนอผลงาน มีจุดเน้นสำคัญดังนี้

1) การดึงดูดความสนใจ
โดยการออกแบบให้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตานั้นชวนมอง และมีความสบายตาสบายใจขึ้น เมื่อชมการนำเสนอ ดังนั้นการเลือกองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น สีพื้น แบบ สี และขนาดของตัวอักษร รูปประกอบ ต้องเหมาะสม สวยงาม

2) ความชัดเจนและความกระชับของเนื้อหา
ส่วนที่เป็นข้อความต้องสั้นแต่ได้ใจความชัดเจน ส่วนที่เป็นภาพประกอบต้องมีส่วนสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับข้อความที่ต้องการสื่อความหมาย การใช้ภาพประกอบ มีประโยชน์มาก ดังคำพังเพยภาษาอังกฤษที่ว่า "A picture is worth a thousand words" หรือ "ภาพภาพหนึ่งนั้นมีค่าเทียบเท่ากับคำพูดหนึ่งพันคำ" แต่ประโยคนี้คงไม่เป็นจริงหากภาพนั้นไม่มีความสัมพันธ์ อย่างสร้างสรรค์กับความหมายที่ต้องการสื่อ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจใช้ภาพใดประกอบ จึงควรตอบคำถาม ให้ได้เสียก่อนว่าต้องการใช้ภาพเพื่อสื่อความหมายอะไรและภาพที่เลือกมานั้นสามารถทำหน้าที่สื่อความหมายเช่นนั้นจริงหรือไม่

3) ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
การสร้างจุดเน้นตามข้อ 1 และ 2 ข้างต้นต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย เช่น กลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก การใช้สีสด ๆ และภาพการ์ตูนมีความเหมาะสม แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่และเนื้อหาที่นำเสนอเป็นเรื่องวิชาการหรือธุรกิจ การใช้สีสันมากเกินไปและการใช้รูปการ์ตูนอาจทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือเพราะขาดภาพลักษณ์ของการเอาจริงเอาจังไป






หลักการเลือกใช้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปเพื่อการนำเสนองาน
1) ทำความเข้าใจกับงานที่เราต้องการนำเสนอ
ก่อนการเลือกระบบสารสนเทศมาใช้ในการนำเสนองานนั้น เราต้องเข้าใจถึงลักษณะงานที่เราต้องการนำเสนอก่อนว่า เป็นงานในลักษณะใด เช่น เป็นข้อความ หรือมีการคำนวณหรือเป็นงานที่เกี่ยวกับการค้น การเก็บรักษาข้อมูล เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกระบบสารสนเทศที่เหมาะสมกับงานนั้น ๆ 

2) เลือกโปรแกรมสำเร็จรูปมาใช้
เมื่อทราบลักษณะของงานที่ต้องการนำเสนอแล้ว เราจะเลือกระบบสารสนเทศที่เหมาะสมกับการนำเสนองานนั้น งานบางอย่างเราอาจใช้ระบบสารสนเทศในการนำเสนอได้หลายอย่าง เราอาจต้องเลือกว่าจะใช้ระบบใด ผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจในความสามารถของระบบนั้น โดยเฉพาะในส่วนของซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมว่าแต่ละโปรแกรมมีความสามารถใดบ้าง เราอาจจะต้องทำการประเมินว่าโปรแกรมใดมีความเหมาะสมเพียงใด แล้วจึงเลือกโปรแกรมที่เห็นว่าเหมาะสมที่สุด

3) จัดหาเครื่องมือตามความต้องการของซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมแต่ละโปรแกรมมีความสามารถไม่เหมือนกัน ขนาดของโปรแกรมก็ไม่เท่ากัน ทำให้ความต้องการของฮาร์ดแวร์ในการทำงานตามโปรแกรมนั้นแตกต่างกัน ในคู่มือการใช้งานโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์นั้นจะบอกข้อกำหนดของฮาร์ดแวร์ที่ต้องการสำหรับการใช้งานไว้ว่าจะต้องมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เราจะต้องจัดหาฮาร์ดแวร์ให้ได้ตามข้อกำหนดนั้นเพื่อให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับระบบโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์นั้น ส่วนใหญ่สามารถนำมาใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์มาตรฐานที่มีขายทั่วไปได้เลย ยกเว้นอุปกรณ์ประเภทเครื่องพิมพ์ที่อาจเลือกได้ตามความต้องการว่าเป็นเครื่องพิมพ์สีขาว/ดำ หรือหลายสี จอภาพจะใช้ขนาดใหญ่กี่นิ้ว หรือฮาร์ดดิสก์ที่อาจต้องดูขนาดความต้องการว่าซอฟต์แวร์มีขนาดเท่าใด และฮาร์ดดิสก์จะพอใช้หรือไม่ เพราะในไมโครคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องนั้นเรามักจะบรรจุโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ไว้หลายชนิด และปริมาณแฟ้มข้อมูลที่มีอยู่เดิมอาจมากจนกระทั่งพื้นที่ที่เหลือไม่เพียงพอต่อการใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูปใหม่นั้น

4 ) การใช้งานโปรแกรม 
ในการใช้งานนั้น นอกาจากผู้ใช้จะต้องทำความเข้าใจการทำงานของฮาร์ดแวร์ว่าใช้งานอย่างไรแล้ว รายละเอียดการใช้งานซอฟต์แวร์ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้จะต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนการใช้งาน ส่วนใหญ่จะศึกษาจากคู่มือของโปรแกรมสำเร็จรูปนั้นเพื่อความเข้าใจในความสามารถก่อน ปกติแล้วคู่มือการใช้งานมาจากเจ้าของผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ซึ่งมักจะอธิบายถึงความสามารถตามฟังก์ชั่นที่มีอยู่ แต่มักจะไม่ค่อยมีตัวอย่างการประยุกต์ใช้ ผู้ใช้ต้องทดลองเอง จึงได้มีผู้ที่มีความรู้ความสามารถในโปรแกรมนั้น ๆ ทำคู่มือการใช้งานในลักษณะการประยุกต์ มีตัวอย่างของงานแสดงให้เห็น ทำให้สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วขึ้นและในปัจจุบันนี้มีการทำคู่มือการใช้งานในรูปของสื่อคอมพิวเตอร์ที่เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น ทำเป็นซีดีการใช้งาน เป็นต้น ฉะนั้นผู้ใช้งานที่ยังไม่มีประสบการณ์จึงควรเรียนรู้จากคู่มือการใช้งาน ทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อน แล้วจึงลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง 




รูปแบบการนำเสนอข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์ 

ปัจจุบันที่นิยมใช้กันมี 2 รูปแบบ คือ

1. การนำเสนอแบบ Web page 
เป็นรูปแบบการนำเสนอที่ใช้บนอินเทอร์เน็ต การนำเสนอแบบนี้สามารถสร้างการเชื่อมโยงที่สลับซับซ้อนระหว่างส่วนต่าง ๆ ตลอดจน สามารถสร้างการเชื่อมโยงเอกสารที่ต่างรูปแบบกันได้แต่ต้องใช้เวลาในการจัดทำมากกว่า รูปแบบอื่นและผู้จัดทำต้องมีความรู้ความชำนาญในโปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บเพจ

2. การนำเสนอแบบ Slide Presentation 
เป็นการนำเสนอโดยใช้โปรแกรมนำเสนอ ซึ่งเป็นโปรแกรม ที่ใช้ง่ายมากมีรูปแบบการนำเสนอให้เลือกใช้หลายแบบ สามารถเรียกใช้ตาราง แผนภูมิ หรือรูปภาพประกอบ และตกแต่งด้วยสีสัน ทั้งสีพื้น สีของตัวอักษร รูปแบบฟอนต์ ของตัวอักษรได้ง่ายและสะดวก ในปัจจุบันสื่อนำเสนอรูปแบบ Slide Presentationหรือ สไลด์ดิจิทัล มักจะสร้างด้วยโปรแกรมในกลุ่ม Presentation เช่น Microsoft PowerPoint, OfficeTLE Impress เทคนิคการออกแบบสื่อนำเสนอ สื่อนำเสนอที่ดี ความมีความโดดเด่น น่าสนใจ จะเน้นความคิด “ หนึ่งสไลด์ต่อ หนึ่งความคิด ” มีการสรุปประเด็น หรือสาระสำคัญโดยมีแนวทาง 3 ประการในการออกแบบ ได้แก่

1) สื่อความหมายได้รวดเร็ว สื่อนำเสนอที่ดีต้องสามารถสื่อความหมายให้ผู้ฟัง ผู้ชมได้อย่างรวดเร็ว การออกแบบ สื่อนำเสนอในประเด็นนี้ผู้ออกแบบจะต้องทราบกลุ่มเป้าหมาย เนื้อหาสาระที่ต้องการนำเสนอ สถานที่ และเวลาที่ต้องการนำเสนอเพื่อประกอบการออกแบบสื่อ เช่น กลุ่มเป้าหมายขนาดเล็ก สื่อควรมีให้ความสำคัญกับผู้ฟังมากกว่าเนื้อหา สามารถนำเทคนิค หรือ Effect ต่าง ๆ ของโปรแกรมสร้างสื่อมาใช้ได้อย่างเต็มที่ กลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะโต้ตอบ เช่นการนำเสนอทางวิชาการ การบรรยาย หรือฝึกอบรม สื่อนำเสนอควรให้ ความสำคัญกับเนื้อหารวมทั้งยังสามารถนำเทคนิค หรือ Effect ต่าง ๆ ของโปรแกรมสร้างสื่อ มาใช้ได้อย่างเต็มที่เช่นกัน กลุ่มเป้าหมายเฉพาะกิจ เช่นผู้บริหาร นักวิชาการ สื่อนำเสนอจะต้องให้ความสำคัญกับเนื้อหาและตัว ผู้นำเสนอเป็นสำคัญเนื้อหาควรมุ่งเฉพาะเป้าหมายของการนำเสนอ ไม่เน้น Effect มากนัก กลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ การนำเสนอมักใช้ความสำคัญกับผู้บรรยายมากกว่าเนื้อหาที่นำเสนอ ดังนั้น สื่อนำเสนอไม่ควรเน้นที่ Effect แต่ควรให้ความสำคัญกับขนาดตัวอักษร สีตัวอักษร และลักษณะของสีพื้นสไลด์

2) เนื้อหาเป็นลำดับ สื่อนำเสนอที่ดีควรมีการจัดลำดับเนื้อหาเป็นลำดับ มีระเบียบ ดูง่าย ไม่สับสนสิ่งที่ จะช่วยให้การออกแบบสื่อนำเสนอที่ต้องการจัดลำดับเนื้อหาให้เป็นระเบียบ และดูง่าย คือ

2.1) รูปแบบเนื้อหา สื่อนำเสนอแต่ละสไลด์ ควรหลีกเลี่ยงการนำเสนอแบบย่อหน้า หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ควรใช้ เทคนิคการเน้นแนวคิดหลัก( Main Idea) ในแต่ละย่อหน้าด้วยสีที่โดดเด่น เช่น พื้นหลังสีขาว ตัวอักษรสีดำ ควรเน้นแนวคิดหลัก ( Main Idea)ด้วยสีแดงเป็นต้น แต่ละสไลด์เนื้อหาไม่ควรเกิน 6 – 8 บรรทัด ควรสรุปเนื้อหาให้เป็นหัวเรื่อง (Title) และหัวข้อ(Topic) หรือแนวคิดหลัก (Main Idea)

2.2) แบบอักษร การควบคุมการแสดงข้อความในแต่ละสไลด์ ควรให้ความสำคัญ กับขนาดตัวอักษร ดังนี้

- หัวข้อใหญ่กำหนดขนาดตัวอักษรใหญ่กว่าหัวข้อย่อย

- เลือกใช้แบบอักษรที่เหมาะสม

- เปลี่ยนลักษณะของตัวอักษรนั้น ใช้ตัวหนาในข้อความที่ต้องการเน้น

- ใช้ช่องว่างในการจัดกลุ่มของเนื้อหา

- ข้อความที่ต้องการให้อ่านก่อน ควรจัดไว้ที่ตำแหน่งมุมซ้ายบนของหน้า

- พิมพ์ตัวอักษรลงกรอบที่วางแบบไว้แล้ว

- ขึ้นหัวข้อก่อนแล้วจึงอธิบายอย่างละเอียด

- ใช้สีที่แตกต่างกัน หรือตัวอักษรสีสลับกัน

3) สื่อนำเสนอต้องสะดุดตาและน่าสนใจ สื่อนำเสนอที่ดีนั้นจะต้องมีจุดเด่นน่าสนใจ สามารถดึงดูดสายตาของผู้ดู ผู้ฟังได้ ซึ่งจุดเด่นนี้ได้มาจากขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่ หรือจากการใช้สีที่แตกต่างออกไป รวมถึง การเลือกใช้ภาพ การใช้สี และการใช้ Effect ควบคุมการนำเสนอ ที่เหมาะสมประกอบ การนำเสนอ

3.1) การใช้ภาพ เนื่องจากภาพจะช่วยให้ผู้ชม ผู้ฟัง สามารถจดจำได้นานกว่าตัวอักษร ดังนั้น การแปลงเนื้อหาให้เป็นรูปภาพหรือผังภาพก็เป็นเทคนิคหนึ่งที่สามารถสร้างความน่าสนใจ ให้กับสื่อที่นำเสนอการเลือกใช้ภาพก็ควรเลือกใช้ภาพที่มีลักษณะที่เหมาะสมกันและกัน คือถ้าในสไลด์นั้นเลือกใช้ ภาพถ่ายก็ควรใช้ภาพถ่ายกับภาพทุกภาพในสไลด์ แต่ถ้าเลือกใช้ภาพวาด ก็ควรเลือก ภาพวาดทั้งสไลด์เช่นกันดังนั้นจึงไม่ควรใช้ภาพวาดผสมกับภาพถ่าย ใส่เทคนิคที่น่าสนใจให้กับภาพเพื่อสร้างจุดเด่น การเอียงภาพ การเว้นช่องว่างรอบภาพ
การเปลี่ยนสีภาพให้แตกต่างจากปกติ ควรระวังการเลือกใช้ภาพเป็นพื้นหลังสไลด์ เพราะอาจจะทำให้ผู้ชมสนใจ พื้นสไลด์มากกว่าเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ หรืออาจทำให้ผู้ชมไม่สนใจมองสไลด์เลยก็ได้ เนื่องจากภาพทำให้ตัวอักษรไม่โดดเด่น ไม่น่ามอง หรืออ่านยาก

3.2) การใช้สี การเลือกใช้สี ควรเลือกใช้สีที่ตัดกันระหว่างสีตัวอักษร สีวัตถุ และสีพื้น เช่น เลือกใช้พื้นสไลด์เป็นสีขาวหรือสีอ่อน ๆ สีตัวอักษรก็ควรจะเป็นสีดำ สีน้ำเงินเข็มหรือสีแดงเลือดหมู กรณีเลือกใช้พื้นสไลด์เป็นสีเข็ม ควรเลือกใช้สีตัวอักษรที่มองเห็นได้ชัด ในระยะไกลเช่น สีขาว สีฟ้าอ่อน ควรหลีกเลี่ยงการใช้สีในโทนร้อน เช่น สีแดงสด สีเหลือกสด สีเขียวสด สีวัตถุ สีแท่งกราฟหรือสีของตาราง ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับสีตัวอักษร และสีพื้นด้วย การเลือกใช้สีใด ๆ ก็ควรเป็นสีในชุดเดียวกันสำหรับสไลด์ทั้งหมด ไม่ควรใช้หนึ่งสี หนึ่งไลด์

3.3) การใช้ Effect ควบคุมการนำเสนอ ไม่ควรใส่ Effect มากเกินไป เพราะจะส่งผลให้ผู้ชม ผู้ฟัง สนใจ Effect มากกว่าเนื้อหาที่นำเสนอ หรืออาจไม่สนใจการนำเสนอเลยก็ได้ และ Effect ที่มากนี้จะเป็น การรบกวนการจดจำ การอ่าน หรือการชมอย่างรุนแรง เลือกใช้ Effect ไม่ควรเกิน 3 แบบ ในแต่ละสไลด์ควรเลือกใช้ Effectแสดงข้อความที่เลื่อนจากขอบ ซ้ายมาขอบขวา ของจอ เนื่องจากธรรมชาติการอ่านของคนไทยจะอ่านข้อความจากกรอบบนลงมา และอ่านจากด้านซ้ายไปด้านขวา




อุปกรณ์ดิจิทัลที่ช่วยในการนำเสนอผลงานอุปกรณ์ดิจิทัลที่สามารถถ่ายทอดภาพและเสียงในงานนำเสนอเพื่อให้งานนำเสนอมีคุณภาพ เข้าถึงผู้ชมและผู้ฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้

1. โพรเจกเตอร์ (Projector) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ในการนำเสนอ โดยสามารถรองรับสัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวีซีดี เครื่องเล่นดีวีดี และเครื่องกำเนิดภาพอื่น ๆ แล้วแสดงผล ขยายขนาดบนจอรับภาพช่วยให้มองเห็นได้ไกลขึ้น เหมาะสำหรับการนำเสนอข้อมูลในห้องประชุม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถมองเห็นภาพหรือข้อความได้อย่างชัดเจน

2. วิชวลไลเซอร์ (Visualizer) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพระบบดิจิทัลประเภทหนึ่ง ซึ่งพัฒนามาจากโอเวอร์เฮดหรือเครื่องฉายข้ามศีรษะ ใช้แสดงภาพวัตถุและเอกสารสู่จอรับภาพที่มีอยู่จริงได้เลย โดยไม่ต้องดัดแปลง อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับใช้ในการนำเสนองานต่าง ๆ โดยเฉพาะครู-อาจารย์ที่สอนหนังสือ และใช้ได้ดีในการนำเสนอภาพนิ่งมากกว่าภาพเคลื่อนไหว แต่ภาพที่แสดงออกมานั้นก็ให้ความคมชัด มีสีสดใส และมีโหมดของการแสดงภาพให้ปรับการทำงานด้วย การควบคุมการทำงานสามารถทำได้โดยใช้รีโมต

3. กล้องถ่ายรูปดิจิทัล (Digital Camera) เป็นอุปกรณ์รับภาพที่เปลี่ยนจากฟิล์มมาเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อถ่ายรูปที่ต้องการแล้ว รูปจะถูกเก็บลงในหน่วยความจำ (memory) ที่อยู่ในกล้อง เมื่อต้องการดูรูปทำได้โดยการถ่ายข้อมูลจากหน่วยความจำลงบนเครื่องพิมพ์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาพที่ได้จะมีขนาดตามที่ต้องการ สามารถย่อหรือขยาย ปรับแสงหรือเงาแล้วแต่ความพอใจหรือจะเพิ่มรูปแบบก็สามารถทำได้ และเมื่อจะถ่ายใหม่ ก็สามารถใช้หน่วยความจำเดิมได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อฟิล์ม

4. กล้องถ่ายวีดิทัศน์ดิจิทัล เป็นอุปกรณ์รับภาพที่บันทึกข้อมูล ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เก็บไว้ในหน่วยความจำแบบแฟลชภายในกล้อง สามารถย่อหรือขยาย ปรับแสงเงาของภาพได้ และในปัจจุบันสามารถคัดลอกข้อมูลลงในแผ่นดีวีดีได้เลย โดยไม่ต้องโอนลงในเครื่องคอมพิวเตอร์

5. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและคอมพิวเตอร์ขนาดสมุดบันทึกหรือโน้ตบุ๊ก เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สร้างงานนำเสนอ เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โพรเจกเตอร์ เพื่อนำเสนองาน และใช้นำเสนองานผ่านจอภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์

6. เครื่องเล่นเสียง หรือเครื่องเล่นเอ็มพีสาม (MP3) เป็นอุปกรณ์ซึ่งบรรจุข้อมูลเสียงที่ใช้เล่นในคอมพิวเตอร์และสามารถถ่ายโอนข้อมูลเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้ โดยข้อมูลเสียงนั้นใช้เทคโนโลยีบีบอัดให้มีขนาดเล็กลงมากกว่าข้อมูลเสียงปกติถึง 12 เท่า แม้ขนาดข้อมูลจะเล็กลง แต่คุณภาพเสียงไม่ได้เสียไป อย่างไรก็ตาม หากเรานำข้อมูลเสียงจากเครื่องเล่น MP3 ไปเล่นในเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า จะได้เสียงในลักษณะกระตุกหรือใช้การไม่ได้เลย

7. โทรศัพท์เคลื่อนที่บางรุ่น เป็นอุปกรณ์ตัวกลางที่ผู้ใช้สามารถนำเสนองานที่สร้างด้วยซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ผ่านเครื่องโพรเจกเตอร์ได้สะดวก ง่ายต่อการติดตั้ง เพียงเชื่อมต่อโพรเจกเตอร์เข้ากับโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านสายเคเบิล แล้วเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยบลูทูธ



นอกจากอุปกรณ์ดิจิทัลที่ช่วยในการนำเสนอผลงานแล้ว ยังมีส่วนประกอบที่สำคัญในการนำเสนองานคือ คำบรรยาย หรือบทพากย์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบด้านโสตหรือเสียงนั่นเอง โดยมีวิธีการและหลักในการพิจารณาดังนี้


1. การบรรยายสด เหมาะสำหรับการประชุมหรือสัมมนาที่ต้องการให้ผู้ชมมีส่วนร่วม เพราะผู้บรรยายในกรณีนี้เป็นผู้ที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเนื้อหาเป็นอย่างดีรู้ว่าควรจะเน้นตรงจุดใดและปฏิกิริยาจากผู้ชมทำให้ผู้บรรยายรู้ว่าผู้ชมสามารถติดตามทำความเข้าใจได้เพียงพอหรือไม่รู้ว่าส่วนไหนจะต้องอธิบายขยายความมากน้อยเพียงใด

2. การพากย์ เหมาะสำหรับเนื้อหาที่สามารถถ่ายทอดได้โดยไม่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของผู้ชม ข้อดีคือสามารถเลือกใช้เสียงพากย์ที่มีความไพเราะน่าฟัง สามารถเลือกใช้ดนตรี หรือเสียงประกอบ (Sound effect) เพื่อสร้างบรรยากาศ แต่ข้อเสียคือไม่มีความยืดหยุ่น ไม่สามารถปรับให้เหมาะสมกับความรู้สึกของผู้ชมในขณะนั้น






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น